ภูเขาไฟพนมรุ้ง ตั้งอยู่ในบริเวณติดต่อระหว่างเขตอำเภอนางรอง
ประโคนชัยและละหานทราย ห่างจากที่ตั้งตัวจังหวัดลงไป
ทางใต้ประมาณ 70 กม.
มีพื้นที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตรมีช่องปะทุระเบิดอยู่ตรงศูนย์กลางของเขตภูเขาไฟ
และมีลักษณะคล้ายชามยักษ์วางหงายอยู่บนเนินกว้างประมาณ
300 เมตร
ยอดเนินภูเขาไฟ สูงประมาณ 383 เมตร จากระดับน้ำทะเล
เนินภูเขาไฟกว้างประมาณ 4
กิโลเมตร ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร
วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ประกอบด้วยหินบะซอลต์ที่มีรุพรุนเป็นส่วนมาก
มีสีเทา-ดำวางทับบนหิน ทรายและทรายแป้งหน่วยหินโคกกรวด
หินบะซอลต์ประกอบด้วยแร่โอลิวีน ไพรอกซีน (pyroxene)
แร่เฟลด์สปาร์ ชนิดแอนดีซีน
และอัลไบต์ (albite) จัดเป็นหินบะซอลต์พวก hawaiite
บนยอดเขาปาก
ช่องปะทุระเบิดด้านใต้เป็นที่ตั้งของปราสาทหินทรายและหินทรายแป้ง
(Sandstone and
siltstone) สีน้ำตาแดง-ชมพูของหินกลุ่มโคราช (khorat
group)
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในนามปราสาทหินพนมรุ้ง
บนไหล่เนินภูเขาไฟทิศทะวันออกเฉียงเหนือพบแร่รัตนชาติพวกโอปอล์
(opal)
สีน้ำตาลกาแฟ เป็นโอปอล์ชนิดธรรมดาและบริเวณที่ราบด้านใต้มีรัตนชาติพวกควอร์ตซ์
(quartz) อาทิ โป่งขาม เป็นต้น
ภูเขาไฟพนมรุ้งเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในจังหวัดบุรีรัมย์
เกิดจากธารลาวาที่หนืดข้นมาก เมื่อไหลทะลักออกจากปากปล่องช่องปะทุ
ไปไม่ไกลก็เย็นแข็งตัว จึงมีการทับถมสะสมของหินลาวาในแนวดิ่งมากกว่าในแนวราบ
แตกต่างจากภูเขาไฟกระโดงอย่างชัดเจน
บริเวณปากปล่องช่องปะทุจะมีโครงสร้างเป็นแอ่งลึกและลาดชันมาก
รูปร่าง
กลมไม่มีร่องรอยการยุบตัว หากมีน้ำขังมากจะกลายเป็นทะเลสาบบนปล่องภูเขาไฟ
(Crater lake) ที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศที่เดียว
โดยเฉพาะหากขึ้นไปยืนมองจากขอบปากปล่องช่องปะทุทางด้าน
ทิศใต้
ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทหินพนมรุ้งศาสนสถานของศาสนาพรหมณ์
ลัทธิไศวนิกาย
ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่สวยงามและตั้งอยู่บนเนินภูเขาไฟสูงที่สุดในประเทศไทย
วัสดุก่อสร้างของปราสาทหินพนมรุ้ง ส่วนใหญ่เป็นหินทราย
รองลงมาเป็นหินภูเขาไฟประเภทหินทัฟฟ์ (Volcanic
Tuff) และอิฐ
ส่วนที่เป็นหินทรายและหินทัฟฟ์ จะตัดหินเป็นแท่งก้อนเล็ก-ใหญ่
แตกต่างกัน
หินทัฟฟ์มักมีขนาดกว้างประมาณ 35 ซม. ยาวประมาณ
50 ซม. และหนาประมาณ
30-40 ซม. และพบอยู่ในตอนล่างและเป็นฐานขององค์ปราสาทหินแห่งนี้